เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 10 ชิ้นที่ต้องมี ปี 2025 | รีวิวและแนะนำการเลือกซื้อ

การเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ในปี 2025 เทคโนโลยีของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้พัฒนาไปมาก มีทั้งระบบ AI ระบบประหยัดพลังงาน และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคใหม่

วันนี้เราจะมาแนะนำเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 10 ชิ้นที่ทุกครอบครัวควรมี พร้อมเทคนิคการเลือกซื้อและวิธีการใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

ทำไมต้องเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านให้ถูกต้อง?

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่เลือกอย่างถูกต้องจะส่งผลดีต่อชีวิตประจำวันในหลายด้าน ทั้งการประหยัดเวลา ลดต้นทุน และเพิ่มความปลอดภัย

ประโยชน์ของการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่เหมาะสม

ประหยัดเวลาในการทำงานบ้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านสมัยใหม่ช่วยลดเวลาทำงานบ้านได้มากถึง 70%

ลดค่าใช้จ่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่มี Energy Label เบอร์ 5 ช่วยประหยัดค่าไฟได้ 20-50% ต่อปี ตามข้อมูลจาก กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน

เพิ่มความปลอดภัยเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านมาตรฐาน มีระบบป้องกันไฟรั่วและการทำงานผิดปกติ ตามมาตรฐานความปลอดภัยของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน

ยกระดับคุณภาพชีวิต – มีเวลาให้ครอบครัวและกิจกรรมที่ชื่นชอบมากขึ้น


รายการเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 10 ชิ้นที่ควรมี


1. เครื่องซักผ้าฝาหน้า – เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านประหยัดน้ำ

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน


ครื่องซักผ้าฝาหน้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่จำเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะรุ่น Inverter ที่ประหยัดไฟและลดเสียงรบกวน

ทำไมต้องเลือกเครื่องซักผ้าฝาหน้า:

  • ซักผ้าสะอาดกว่าเครื่องซักผ้าฝาบน 30%
  • ใช้น้ำน้อยกว่า 40% เหมาะกับปัญหาน้ำแพง
  • ปั่นแห้งได้ดีกว่า ลดเวลาตากผ้า
  • ประหยัดพื้นที่ สามารถวางของบนฝาได้

วิธีเลือกซื้อเครื่องซักผ้าฝาหน้า:

  • เลือกขนาด 7-9 กก. สำหรับครอบครัว 3-4 คน
  • หาที่มีระบบ Digital Inverter ประหยัดไฟ
  • ตรวจสอบ Energy Label ให้ได้เบอร์ 5
  • เลือกยี่ห้อที่มีศูนย์บริการครอบคลุม

ลองเลือกใช้ เครื่องซักผ้าฝาหน้าประหยัดพลังงานรุ่นใหม่ ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความสะอาดและถนอมผ้า


2. ตู้เย็น 2 ประตู No Frost – เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านรักษาความสดอาหาร


ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ทำงาน 24 ชั่วโมง จึงต้องเลือกแบบประหยัดไฟ แนะนำแบบ No Frost เพื่อไม่ต้องละลายน้ำแข็ง

คุณสมบัติที่ควรมีในตู้เย็น:

  • ระบบ Multi Air Flow กระจายความเย็นสม่ำเสมอ
  • Digital Inverter Compressor ประหยัดไฟ 60%
  • ช่องแช่แข็งแยกอิสระควบคุมอุณหภูมิได้
  • ระบบ Deodorizer กรองกลิ่นและฆ่าเชื้อ

การใช้งานตู้เย็นให้ประหยัดไฟ:

  • ตั้งอุณหภูมิช่องแช่เย็นที่ 2-4°C
  • ไม่ใส่อาหารร้อนเข้าตู้เย็น
  • ทำความสะอาดคอยล์หลังตู้เย็นทุก 3 เดือน
  • เปิดประตูให้น้อยที่สุด

แนะนำให้ดู ตู้เย็น 2 ประตูระบบ No Frost ที่ช่วยรักษาความสดได้ยาวนานโดยไม่ต้องละลายน้ำแข็งเอง


3. เครื่องปรับอากาศ Inverter – เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านประหยัดไฟสุด


แอร์ Inverterเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ใช้ไฟมากแต่ถ้าเลือกแบบ Inverter จะประหยัดได้มาก

ประโยชน์ของแอร์ Inverter:

  • ประหยัดไฟ 30-50% เมื่อเทียบกับแอร์ธรรมดา
  • เสียงเบา เพราะคอมเพรสเซอร์ไม่เปิด-ปิดบ่อย
  • อายุการใช้งานนานกว่า 2-3 ปี
  • ทำความเย็นได้เร็วและคงที่

วิธีคำนวณขนาด BTU ที่เหมาะสม:

  • ห้อง 12 ตร.ม. = 9,000 BTU
  • ห้อง 16 ตร.ม. = 12,000 BTU
  • ห้อง 20 ตร.ม. = 15,000 BTU
  • ห้อง 25 ตร.ม. = 18,000 BTU

สำหรับใครที่อยากลดค่าไฟ แนะนำ แอร์ระบบ Inverter เย็นเร็ว ประหยัดไฟ


4. เตาอบไมโครเวฟ Convection – เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทำอาหารอเนกประสงค์


เตาอบไมโครเวฟแบบ Convection เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่รวมความสามารถหลายอย่างไว้ในเครื่องเดียว

ความสามารถของเตาอบไมโครเวฟ Convection:

  • อุ่นอาหารด้วยคลื่นไมโครเวฟ รวดเร็ว
  • ย่างและอบด้วยลมร้อน ได้ผลเหมือนเตาอบ
  • ทำอาหารหลากหลายเมนู ประหยัดพื้นที่ครัว
  • ฟีเจอร์ Auto Cook โปรแกรมอาหารสำเร็จรูป

เมนูแนะนำที่ทำได้ด้วยเตาอบไมโครเวฟ:

  • ข้าวผัด โดยใช้ข้าวเหลือและผสมเครื่องปรุง
  • ไก่อบสมุนไพร ใช้โหมด Convection 180°C
  • เค้กสฟองจ์ ใช้โหมดอบ 160°C
  • พิซซ่าแช่แข็ง ได้กรอบนอกนุ่มใน

ทำอาหารง่ายขึ้นด้วย ไมโครเวฟระบบ Convection อบ-อุ่น-ย่าง ได้ในเครื่องเดียว


5. หม้อหุงข้าว Fuzzy Logic – เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหุงข้าวอัจฉริยะ


หม้อหุงข้าวแบบ Fuzzy Logic เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ใช้เทคโนโลยี AI ปรับการหุงให้เหมาะกับข้าวแต่ละชนิด

เทคโนโลยี Fuzzy Logic คืออะไร: ระบบควบคุมอัจฉริยะที่วิเคราะห์ความชื้น อุณหภูมิ และเวลา เพื่อปรับโปรแกรมหุงข้าวให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ

ขนาดหม้อหุงข้าวที่เหมาะสม:

  • 1.0 ลิตร สำหรับ 1-2 คน (2-3 ถ้วย)
  • 1.5 ลิตร สำหรับ 3-4 คน (4-5 ถ้วย)
  • 1.8 ลิตร สำหรับ 5-6 คน (6-7 ถ้วย)

ลองใช้ หม้อหุงข้าวระบบ Fuzzy Logic ที่ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติเพื่อข้าวที่สุกพอดี


6. เครื่องกรองน้ำ RO System – เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านผลิตน้ำดื่ม


เครื่องกรองน้ำระบบ RO เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่สำคัญสำหรับสุขภาพ กรองสารปนเปื้อนได้ 99.9%

ระบบการกรองน้ำ RO 5 ขั้นตอน:

  • ขั้นที่ 1: Pre-Filter กรองตะกอนหยาบ
  • ขั้นที่ 2: Carbon Filter กรองคลอรีน
  • ขั้นที่ 3: Pre-Carbon กรองสารเคมี
  • ขั้นที่ 4: RO Membrane กรองโมเลกุลเล็ก
  • ขั้นที่ 5: Post Carbon + แร่ธาตุ

การบำรุงรักษาเครื่องกรองน้ำ:

  • เปลี่ยนไส้กรองขั้นที่ 1-3 ทุก 6 เดือน
  • เปลี่ยน RO Membrane ทุก 2 ปี
  • ล้างถังเก็บน้ำทุก 3 เดือน

ดื่มน้ำสะอาดมั่นใจทุกวันด้วย เครื่องกรองน้ำระบบ RO กรองละเอียดถึงระดับโมเลกุล


7. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย – เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทำความสะอาด


เครื่องดูดฝุ่นไร้สายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ช่วยทำความสะอาดได้รวดเร็วและสะดวกกว่าไม้กวาด

ข้อดีของเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย:

  • เคลื่อนที่สะดวก ไม่มีสายไฟรบกวน
  • ดูดฝุ่นละเอียด PM2.5 และขนสัตว์ได้ดี
  • มีหัวดูดพิเศษสำหรับซอกมุมต่างๆ
  • ประหยัดเวลาทำความสะอาด 50%

วิธีใช้เครื่องดูดฝุ่นให้มีประสิทธิภาพ:

  • ดูดฝุ่นทุกวันในพื้นที่หลัก
  • เปลี่ยนไส้กรอง HEPA ทุก 6 เดือน
  • ทำความสะอาดหัวแปรงหลังใช้
  • ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนใช้

งานบ้านเร็วขึ้นด้วย เครื่องดูดฝุ่นไร้สายพลังดูดสูง ใช้งานสะดวก


8. เครื่องฟอกอากาศ HEPA Filter – เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านปรับอากาศ


เครื่องฟอกอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่จำเป็นในยุคมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะที่มีไส้กรอง HEPA

ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ:

  • กรอง PM2.5 และฝุ่นละออง 99.97%
  • ลดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรค
  • ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
  • ปรับปรุงคุณภาพอากาศในบ้าน

วิธีเลือกขนาดเครื่องฟอกอากาศ:

  • ห้อง 20 ตร.ม. ใช้ CADR 200-250 ลบ.ม./ชม.
  • ห้อง 30 ตร.ม. ใช้ CADR 300-350 ลบ.ม./ชม.
  • ห้อง 40 ตร.ม. ใช้ CADR 400-450 ลบ.ม./ชม.

หายใจเต็มปอดกับ เครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรอง HEPA ดักจับฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้


9. พัดลมไอเย็น – เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านประหยัดไฟทดแทนแอร์


พัดลมไอเย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทางเลือกสำหรับลดอุณหภูมิโดยใช้ไฟน้อย

หลักการทำงานของพัดลมไอเย็น: ใช้การระเหยของน้ำเพื่อลดอุณหภูมิอากาศ ทำให้รู้สึกเย็นสบายและอากาศไม่แห้ง

ข้อดีของพัดลมไอเย็น:

  • ใช้ไฟน้อยกว่าแอร์ 75%
  • เพิ่มความชื้นในอากาศ ไม่ทำให้ผิวแห้ง
  • เคลื่อนที่ได้ ใช้งานสะดวก
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เทคนิคการใช้พัดลมไอเย็นให้เย็นสุด:

  • ใส่น้ำแข็งในถาดน้ำ
  • ใช้ในห้องที่มีการระบายอากาศดี
  • ทำความสะอาดแผ่นระบายความร้อนเป็นประจำ

เย็นสบายประหยัดไฟด้วย พัดลมไอเย็นสำหรับหน้าร้อน


10. เครื่องทำน้ำอุ่น Heat Pump – เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านประหยัดไฟสุด


เครื่องทำน้ำอุ่นแบบ Heat Pump เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ประหยัดไฟที่สุดในการทำน้ำอุ่น

ประเภทเครื่องทำน้ำอุ่น:

แบบ Storage Tank – เก็บน้ำอุ่นไว้ในถัง 15-30 ลิตร เหมาะกับการใช้งานหนัก

แบบ Instant/Tankless – ทำน้ำอุ่นทันที ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับการใช้น้อย

แบบ Heat Pump – ดูดความร้อนจากอากาศมาใช้ ประหยัดไฟ 60-70%

เทคนิคใช้เครื่องทำน้ำอุ่นให้ประหยัดไฟ:

  • ตั้งอุณหภูมิที่ 55-60°C
  • ติดตั้งใกล้จุดใช้งานเพื่อลดการสูญเสียความร้อน
  • เลือกขนาดตามความต้องการจริง
  • เปิดใช้เฉพาะเวลาที่ต้องการ

อาบน้ำอุ่นสบายพร้อมช่วยประหยัดพลังงานด้วย เครื่องทำน้ำอุ่นระบบ Heat Pump รุ่นประหยัดไฟ


วิธีเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านให้คุ้มค่า


1. เช็ค Energy Label ก่อนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

Energy Label เบอร์ 5 คือมาตรฐานประหยัดไฟสูงสุด เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่มี Energy Label เบอร์ 5 จะช่วยประหยัดค่าไฟได้ 20-50% เมื่อเทียบกับเบอร์ 1 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม


2. คำนวณ Total Cost of Ownership

การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านไม่ควรดูแค่ราคาซื้อ แต่ต้องคิด:

  • ค่าไฟฟ้าที่ใช้ต่อปี
  • ค่าบำรุงรักษาและอะไหล่
  • อายุการใช้งาน
  • ค่า Resale Value


3. เลือกยี่ห้อที่มีศูนย์บริการครอบคลุม

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านต้องมีการบำรุงรักษา เลือกยี่ห้อที่มี:

  • ศูนย์บริการในพื้นที่ของคุณ
  • อะไหล่หาง่าย ราคาไม่แพง
  • การรับประกันที่ครอบคลุม
  • ช่างเทคนิคที่มีความรู้


4. อ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง

ก่อนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ควรหาข้อมูลจาก:

  • รีวิวในเว็บไซต์ช้อปปิ้ง
  • กลุ่มและฟอรัมผู้ใช้งาน
  • ช่อง YouTube รีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้า
  • คนรู้จักที่ใช้รุ่นเดียวกัน
  • เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาเช่น PricePanda หรือ Shopbot


เทคนิคการดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านให้ทนทาน


การบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเป็นประจำ

ทำความสะอาดเป็นประจำเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่สะอาดจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและอายุยืนกว่า

เปลี่ยนไส้กรองตามกำหนด – ไส้กรองที่อุดตันจะทำให้เครื่องทำงานหนักและเสียหายได้

ตรวจเช็คระบบไฟฟ้า – เช็ครอยแตกของสายไฟและปลั๊กเป็นประจำ

ใช้งานตามคู่มือ – อ่านคู่มือการใช้งานและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด


การประหยัดไฟด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

ใช้งานในเวลาที่เหมาะสม – หลีกเลี่ยงการเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหลายชิ้นพร้อมกัน ศึกษาเพิ่มเติมเรื่องการประหยัดไฟฟ้าได้ที่ การไฟฟ้านครหลวง

ปิดเมื่อไม่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ยังใช้ไฟ Stand-by

ตั้งค่าให้ประหยัดไฟ – ใช้โหมด Eco Mode หรือ Energy Saving

เลือกเวลาใช้งาน Off-Peak – หลีกเลี่ยงช่วง 9:00-22:00 ที่ค่าไฟแพง


แนวโน้มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านในอนาคต


เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน Smart Home

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านในอนาคตจะเชื่อมต่อ Wi-Fi และควบคุมผ่าน App ได้ ทำให้สามารถ:

  • ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ
  • ตรวจสอบสถานะการทำงานจากที่ไหนก็ได้
  • รับแจ้งเตือนเมื่อต้องบำรุงรักษา
  • วิเคราะห์การใช้ไฟและแนะนำการประหยัด


เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน AI-Powered

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านจะมี AI เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานและปรับตัวอัตโนมัติ เช่น:

  • แอร์ที่ปรับอุณหภูมิตามสภาพอากาศ
  • เครื่องซักผ้าที่เลือกโปรแกรมตามชนิดผ้า
  • ตู้เย็นที่แนะนำเมนูอาหารตามของที่มี



สรุป: การเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่เหมาะสม

การเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่เหมาะสมเป็นการลงทุนระยะยาวที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ประหยัดเวลา และลดค่าใช้จ่าย สิ่งสำคัญคือต้องเลือกให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละครอบครัว

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 10 ชิ้นที่แนะนำในบทความนี้ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต การลงทุนในเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านคุณภาพดีตั้งแต่แรกจะคุ้มค่ากว่าการซื้อของถูกแล้วต้องเปลี่ยนบ่อย

อย่าลืมดูแลรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านให้อยู่ในสภาพดี ทำความสะอาดเป็นประจำ และใช้งานตามคู่มือ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ต้องการข้อมูลรีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเพิ่มเติม? ติดตามเว็บไซต์ของเราเพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ และเทคนิคการใช้งานที่เป็นประโยชน์

HomeReviewHub

เจ้าของโพสต์